ความถี่ในการส่ง Email Marketing

[kubarnaza]

การที่เราจะลงมือ ทำการตลาด้าน Email Marketing ปัจจัยอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรคำนึงถึงนั้นก็คือ ความถี่ในการส่ง Email Marketing หากเราส่งมากเกินไป ก็อาจก่อความรำคาญใจให้กับผู้รับ Email ได้

ตามรายงานผู้คนเกลียดการรับอีเมลส่งเสริมการขายเว้นแต่สมัครรับบริการหรือ Email มีบางอย่าง "เป็นประโยชน์" สำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตามปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่ส่งผลต่อความรู้สึกเกี่ยวกับการรับ Email คือระยะเวลา

หากคุณยังคงทิ้งระเบิดรายชื่อ Email ของคุณกับ Email ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชันหรือโปรโมต รายชื่อสมาชิกของคุณจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ในความเป็นจริง ผู้ใช้ 69 เปอร์เซ็นต์ยกเลิกการสมัครเนื่องจาก " Email จำนวนมากเกินไป"

การรู้จำนวนที่ถูกต้องของ Email อาจเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณสื่อสารกับลูกค้าของคุณมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านช่องทางการขาย Jeremy Reeves แนะนำธุรกิจให้ติดต่อกับลูกค้าและสื่อสารกันบ่อยขึ้น

แต่บ่อยครั้งบ่อยเกินไปหรือไม่? ตามรายงานของ National Marketing Report ของ Direct Marketing Association นักการตลาดส่วนใหญ่ (35 เปอร์เซ็นต์) ส่งอีเมลสองถึงสามครั้งต่อเดือน เก้าเปอร์เซ็นต์ของนักการตลาดส่งอีเมล 6-8 ครั้งต่อเดือน และร้อยละ 19 ส่งอีเมลเพียงหนึ่งครั้งต่อเดือน อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงมุมมองของนักการตลาด ลองดูที่ลูกค้ามากขึ้นและคุณจะตระหนักถึงความต้องการในการส่งอีเมลเพิ่มเติม

จากการสำรวจผู้ใช้ 61 เปอร์เซ็นต์ต้องการรับอีเมลส่งเสริมการขายอย่างน้อยเดือนละครั้ง น่าเสียดายที่ผู้ใช้ 15 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าพวกเขาไม่รังเกียจที่ได้รับอีเมลส่งเสริมการขายทุกวัน การศึกษาชิ้นเดียวกันสรุปได้ว่า 91 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับอีเมลส่งเสริมการขาย อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า Email ดังกล่าวควรได้รับการกำหนดเป้าหมายไว้เป็นอย่างดี

ตัวเลขเหล่านี้บอกคุณถึงความแตกต่างระหว่างความคาดหวังและผลลัพธ์ อย่างไรก็ตามโปรดจำไว้ว่าไม่มีกฎใดที่ตายตัวเมื่อพูดถึงความถี่ของอีเมลส่งเสริมการขาย ตามตัวเลขเหล่านี้ Email สัปดาห์จะทำได้ดี อย่างไรก็ตามคุณต้องพบจุดที่เหมาะสมของคุณเอง นี่เป็นเพียงไม่กี่ปัจจัยที่ต้องพิจารณา


สถิติอุตสาหกรรม

ดูคู่แข่งของคุณและดูจำนวน Email ที่ส่งมาในหนึ่งสัปดาห์ ตรวจสอบผลตอบแทนจากการลงทุนและพิจารณาการเรียนรู้จากพวกเขา อย่างไรก็ตามอย่าคัดลอกกลยุทธ์ของพวกเขาอย่างเปิดเผย พวกเขาอาจส่งอีเมลเพิ่มเติมเนื่องจากมีสมาชิกจำนวนมากหรือเนื่องจากมีเป้าหมายเฉพาะ กลยุทธ์ของคุณควรได้รับการปรับแต่งตามความต้องการของคุณ



ลักษณะผลิตภัณฑ์หรือบริการ

จำนวน Email ที่คุณส่งขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเสนอให้กับลูกค้าของคุณ ตัวอย่างเช่นหากคุณขายเครื่องปรับอากาศคุณจะส่งอีเมลเพิ่มเติมในช่วงฤดูร้อนมากกว่าในฤดูหนาว ในทางตรงกันข้ามถ้าคุณดำเนินการสำนักข่าว คุณจะส่งอีเมลทุกวันเพื่อแจ้งให้ผู้อื่นทราบ



ลักษณะของ Email

คุณควรรู้เป้าหมายของ Email ของคุณ คุณกำลังพยายามทำให้ผู้อื่นซื้อผลิตภัณฑ์หรือกำลังพยายามทำให้พวกเขากรอกแบบฟอร์มหรือไม่ รายงานระบุว่า Email ฉบับแรกของคุณมี CTR สูงสุดซึ่งหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะทำให้ถูกต้อง พยายามที่จะมาถึงจุดใน Email ฉบับแรก จนกว่าคุณจะสร้างความอยากรู้



ต่อไปนี้คือเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าความถี่

ให้ลูกค้าเลือกจำนวน Email ที่ต้องการรับ คุณสามารถมีตัวเลือกนี้เมื่อลงชื่อสมัครรับจดหมายข่าวหรือได้รับข้อมูลนี้โดยการโพสต์

ใส่ใจตัวเลข ดูอัตราการเปิดของคุณและจำนวนการสมัครสมาชิกและการยกเลิกการสมัครที่คุณได้รับ ตัวเลขเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงแผนของคุณได้หากจำเป็น

สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจพื้นฐานของการมีส่วนร่วม หากคุณมีอัตราการมีส่วนร่วมต่ำคุณอาจเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมของลูกค้าโดยเพิ่มหรือลดจำนวนอีเมลที่ส่งต่อสัปดาห์ การมีส่วนร่วมโดยทั่วไปจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการจากอีเมล คุณต้องแน่ใจในวัตถุประสงค์ของอีเมลก่อนที่จะส่งอีเมลบางฉบับไม่ได้รับการส่งโดยมีเจตนาซื้อ Email บางฉบับอาจไม่ใช่คำโปรโมตแต่เพียงเพื่อเพิ่มค่าความนิยม อย่างไรก็ตามตรวจสอบว่า Email ทั้งหมดของคุณเพิ่มมูลค่าให้กับผู้อ่านของคุณ อย่าส่งอีเมลที่เป็นสแปมหรือไม่มีอะไรให้กับผู้ใช้

ผู้ใช้ประมาณ 32 เปอร์เซ็นต์ยกเลิกการสมัครเนื่องจาก Email "ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีประโยชน์" อย่าทำผิดพลาดในการส่งอีเมลเพียงเพื่อประโยชน์ของมันเว้นเสียแต่ว่าคุณต้องการมีสมาชิกน้อยลง

การมีคำตอบเดียวสำหรับคำถามที่ซับซ้อนนี้เป็นไปไม่ได้เนื่องจากธุรกิจต่างกับเป้าหมายและลูกค้าที่แตกต่างกัน คุณต้องยึดมั่นในแนวทางการทดสอบและดูว่าอะไรใช้ได้ดีและสิ่งที่ไม่ได้ผลสำหรับคุณ สามารถใช้การทดสอบ A / B ได้เช่นกัน แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับตัวเลขที่สำคัญทั้งหมด


ที่มา https://www.nipamail.com/