ประเพณีการให้สินสอดกับการเเต่งงานแบบไทยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ สินสอด ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ให้ความหมายของสินสอดว่า เงินที่ฝ่ายชายให้แก่บิดามารดาหญิงที่จะแต่งงานเป็นค่านํ้านม ข้าวป้อน ทรัพย์สินซึ่งฝ่ายชายให้แก่บิดามารดา ผู้รับบุตรบุญธรรมหรือผู้ปกครองฝ่ายหญิง แล้วแต่กรณี เพื่อตอบแทนการที่หญิงยอมสมรส ปัจจุบันการเรียกสินสอดมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยมักขึ้นอยู่กับฐานะทางครอบครัวของฝ่ายหญิง ยิ่งฝ่ายหญิงมีฐานะที่มั่งคั่งมากเท่าไหร่ ครอบครัวฝ่ายหญิงก็จะเรียกค่าสินสอดสูงขึ้นเท่านั้น โดยคนส่วนหนึ่งในสังคมยังมองว่า "ค่าสินสอด" เป็นเสมือนสิ่งสะท้อนคุณค่าของผู้หญิง ไม่ว่าประเทศไทยหรือต่างประเทศก็มีพิธีเเต่งงานเเละค่าสินสอดนั้น ยกตัวอย่าง5ประเทศที่เป็นประเทศจัดพิธีเเต่งงานโดยต้องมีค่าสินสอด จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เคนยา ไทย เเละประเทศอื่นๆ ในวัฒนธรรมยุโรป ก็มีสิ่งที่คล้ายๆกับสินสอด คำศัพท์ที่ใช้คือ Bride price กับ Dowry เมื่อมีการแต่งงานเกิดขึ้น ฝ่ายหญิงต้องไปอยู่ในดินแดนของฝ่ายชาย หากฝ่ายหญิงทำให้ฝ่ายชายไม่พอใจทำให้อยู่แบบอดอยากกฏหมายแทบจะไม่คุ้มครอง ทรัพย์สินทุกอย่างก็เป็นของฝ่ายชายหมด คนเป็นพ่อแม่มักเป็นห่วงลูกเป็นธรรมดา วัฒนธรรมการให้ทรัพย์สินแก่ลูกสาวที่เรียกว่าสินสอดจึงเกิดขึ้นในบางประเทศในยุโยป
สินสอด ตามความหมายของสำนักงานราชบัณฑิตยสภาคือ เงินที่ฝ่ายชายมอบให้แก่บิดามารดาของหญิงที่ตนขอแต่งงานด้วย โบราณเรียกว่าค่าน้ำนมโดยการมอบสินสอดนั้น มอบเพื่อขอบคุณที่เลี้ยงดูฝ่ายเจ้าสาว เป็นการตอบแทนพ่อแม่ของฝ่ายเจ้าสาวที่ยอมยกลูกสาวให้ อีกทั้งยังเป็นหลักประกันความมั่นคงของทางฝ่ายชายว่าจะสามารถเลี้ยงดูเจ้าสาวได้ หรือหากต้องเลิกรากัน ก็ยังมีค่าสินสอดนี้ไว้ให้ฝ่ายหญิงเก็บไว้ใช้ได้
ธรรมเนียมการให้สินสอด
ในประเทศไทยมีธรรมเนียมเรียกค่าสินสอด เพราะว่ามักจะเป็นการแต่งงานด้วยการคลุมถุงชน จึงทำให้ฝ่ายหญิงต้องเรียกค่าสินสอดไว้ก่อน เพื่อเป็นหลักประกันว่าฝ่ายชายจะไม่หนีงานแต่ง อีกทั้งเมื่อก่อนฝ่ายหญิงยังต้องพึ่งพาผู้ชายเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นต้องเรียกสินสอดไว้เพื่อความมั่นใจว่าผ่ายเจ้าบ่าวจะไม่ทิ้งไปไหน แต่ในปัจจุบันนั้น การเรียกสินสอดมักเรียกเพื่อแสดงฐานะและความมั่นคงของฝ่ายชาย และให้เหมาะสมกับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ของทางฝ่ายหญิง
สินสอดเเบ่งออกเป็นสองประเภทคือสินสอดเจ้าสาวเเละสินสอดเจ้าบ่าว
สินสอดเจ้าสาว คือสินสอดงานแต่งที่มอบให้แก่ครอบครัวของฝ่ายหญิงเพื่อตอบแทนการสมรส สินสอดเจ้าสาวเป็นทรัพย์สินมีค่าที่มอบให้เพื่อตอบแทนการยินยอมสมรสของฝั่งเจ้าสาว ส่วนใหญ่คนรับมักเป็นผู้ใหญ่หรือครอบครัวของฝ่ายหญิง การมอบสินสอดเจ้าสาวนี้นอกจากประเทศไทยของเราแล้วยังปรากฎอยู่ในสังคมอื่นอีกหลายแห่ง
สินสอดเจ้าบ่าวคือสินสอดงานแต่งที่มอบให้เจ้าบ่าวก็คล้ายคลึงกับสินสอดเจ้าสาว ต่างกันที่เป็นทรัพย์สินที่มอบให้กับฝ่ายชายหรือครอบครัวของฝ่ายชาย สาเหตุที่ต้องมีสินสอดเจ้าบ่าวเพราะบางประเทศครอบครัวฝ่ายหญิงจะเป็นผู้สู่ขอฝ่ายชายเช่น อินเดียที่มีการมอบสินสอดให้เจ้าบ่าวเพราะถือว่าเจ้าบ่าวจะเป็นผู้ดูแลเจ้าสาวต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการมอบสินสอดให้เจ้าบ่าวในประเทศเอเชียใต้อื่นๆ เช่นปากีสถาน สำหรับฝั่งยุโรปแต่เดิมการมอบสินสอดจะเป็นทรัพย์สินติดตัวให้กับฝ่ายหญิงเพื่อเป็น “สินเดิม” ติดตัวไปก่อนแต่งงาน
หลายคนเชื่อว่าสินสอดสามารถพิสูจน์ความรักได้เพราะมีพ่อแม่ฝ่ายหญิงจำนวนไม่น้อยที่มองว่าถ้าสินสอดไม่มากพอ เท่ากับว่าหากไม่มีปัญญาดูแลลูกสาวของเขาให้สุขสบายเขาก็ไม่ยกลูกสาวให้ ทำให้ต้องกลับมาพิจารณาว่าหรือความรักต้องเเลกด้วยเงินทอง ความรักเป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งงานสร้างครอบครัว หากจะถูกตีค่าเป็นราคาที่ต้องจ่ายก็เท่ากับเป็นการซื้อขายเพราะสิ่งสำคัญของชีวิตคู่คือคือคนสองคนมีความรักเเละความมั่นคงให้กัน จากความเชื่อสมัยก่อนมาถึงปัจจุบันทำให้การแต่งงานแบบไทยในปัจจุบันยังคงยึดถือเรื่องสินสอดอยู่ ค่าสินสอดสามารถคำนวณได้หรือคุณสามาระเข้าไปที่ Google จากนั้นพิมว่าคำนวณค่าสินสอด การคำนวณค่าสินสอดก็ช่วยทำให้มาตรฐานของค่าสินสอดไม่สูงเกินเงินเดือนของฝ่ายชาย
ข้อมูลอ้างอิง
โปรแกรมคำนวณค่าสินสอด ,[ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก https://www.mindphp.com/forums/m_tools_dowry/index
Brides ,[ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก https://www.brides.com/what-is-a-dowry-5074408
สินสอด ยังจำเป็นไหมในบริบทสังคมปัจจุบัน ,[ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก https://tonkit360.com/85481