สิ่งหนึ่งที่จำเป็นของเราเพื่อนใช้ยืนยันว่าเราเป็นใครและเพื่อแสดงตัวตนความมีอยู่ของเราก็คือบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งในประเทศไทยเรานี้ก็มีการใช้บัตรประจำตัวประชาชนเช่นเดียวกัน ประชาชนในประเทศไทยสามารถมีบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่อายุ 7 ปีบริบูรณ์ จากแต่ก่อนต้องมีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ ซึ่งปัจจุบันนี้ บัตรประจำตัวประชาชนได้เปลี่ยนจาก แต่ก่อนเป็นบัตรแม่เหล็ก แต่ตอนนี้เป็นบัตรที่มี ชิปการ์ด(Chip Card) แล้ว
บัตรประจำตัวประชนชิปการ์ด (Chip Card) หรือสมาร์ทการ์ด (Smart Card) คืออะไร
หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ หรือบัตร Smart card เกิดขึ้นจากคณะกรรมการบูรณาการและปฏิรูประบบ การทะเบียนแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพใน การจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนมีบัตรหลักบัตรเดียวในการขอรับบริการจากรัฐ
เก็บข้อมูลอะไรได้บ้าง
- ข้อมูลการทะเบียนราษฎร และทะเบียนอื่น ๆ ที่จำเป็น
- รูปภาพ
- ลายพิมพ์นิ้วมือ (Finger Print) มีการจัดเก็บเป็นรหัสลายพิมพ์นิ้วมือ (MINUTAIE)
- กุญแจเข้าสู่ระบบ (Public Key infrastructures: PKI) เป็นกุญแจสาธารณะที่จะเข้าสู่ระบบ
- พื้นที่ของผู้ถือบัตรสำหรับเข้าใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Buffer E-Mail)
- พื้นที่เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือบัตร (Buffer E-Memo)
- รหัสผ่านเข้าสู่ระบบของผู้ถือบัตร (User Password) และส่วนเชื่อมเครือข่าย (Authorization) เข้าสู่ระบบของแต่ละหน่วยงานที่เข้าเชื่อม (Application) ในแต่ละหน่วยงาน
ประโยนช์ของบัตรชิปการ์ด
- ประโยชน์ต่อหน่วยงานภาครัฐ ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนของการทำบัตรของหน่วยงานภาครัฐ เป็นการใช้ ทรัพยากรของหน่วยงานร่วมกันและประหยัดงบประมาณของประเทศ
- ประโยชน์ต่อประชาชน ประหยัดเวลาในการจัดทำบัตร การยืนยันตัวบุคคลและ ได้รับบริการภาครัฐที่ครบถ้วนมากขึ้น โดยใช้บัตรเพียงใบเดียว กล่าวคือประโยชน์ของบัตรประจำตัวประชาชนแบอเนกประสงค์ (Smart Card) จะได้รับมีดังต่อไปนี้
- ประหยัดเวลาในการขอรับบัตร ซึ่งเดิมใช้เวลา 3 เดือน เหลือ 15 นาที
- ใช้ยืนยันตัวบุคคลเพื่อเข้าสู่ระบบบริการแบบอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐหรือเอกชนที่จะเข้าร่วม
- ใช้บัตรลงทะเบียน เพื่อขอรับการบริการของภาครัฐ ที่รวดเร็ว สะดวกและปลอดภัยสูง
- ใช้บัตรขอรับบริการด้านการสาธารณสุขตามโครงการหลักประกันสุขภาพ (30 บาทรักษาทุกโรค)
- ใช้บัตรเพื่อขอรับบริการด้านการประกันสังคม
- ใช้บัตรเพื่อการปฏิบัติงานการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย ระดับสูงของภาครัฐ
- ใช้เป็นบัตรแทนบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่มีการปลอมแปลงได้ยาก
- ใช้ตรวจสอบข้อมูลการทะเบียนบุคคลต่างด้าวและผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยประเภทต่าง ๆ
- ใช้ตรวจสอบข้อมูลการทะเบียนของประชาชนแบบ on-Line เฉพาะบุคคลได้
- ใช้เป็นบัตรเพื่อลงประชามติหรือการเลือกตั้ง ใช้เป็นบัตรแทนใบขับขี่รถยนต์ และจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
สรุป
จะเห็นได้ว่าการใช้งานของบัตรประชาชนอเนกประสงค์จะใช้งานได้ครอบคลุมเกือบทุกเรื่องเวลาที่ไปติดต่องานหรือติดต่อกับทางราชการ แต่ในประเทศไทยทุกวันนี้ก็ยังคงไม่ใช้ประโยชน์ของบัตรนี้ได้เต็มประสิทธิภาพสักเท่าไร จะเห็นได้จาก เวลาเราไปติดต่อราชการอะไร เราก็ยังคงต้องถ่ายสำเนาบัตรประชาชนอยู่ดี ซึ่งที่ใช้ประโยนช์จริงๆที่เคยเห็นทุกวันนี้ก็มี เวลาติดต่ออยู่สถานีตำรวจ แล้วติดต่อบางเรื่องบนที่ว่าการอำเภอ
References: ประโยชน์ของบัตรประชาชน "บัตรประชาชนรุ่นที่ 5". [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.stat.bora.dopa.go.th. [18 กรกฎาคม 2561]
References: ประโยชน์ของบัตรประชาชน "ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐฯ". [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.gcc.go.th. [18 กรกฎาคม 2561]
ภาพประกอบ: moneyhub.in.th