Object Math, Object Number, Object String, Object Date โดยทั้งหมดเป็น object ที่ถือว่าเป็นพื้นฐานทั้งสิ้นและจะถูกนำไปประยุกต์ใช้งานอยู่บ่อยครั้งโดยในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักและยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันวาลักษณะนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
Object Math
เป็น object ที่ใช้ในการคำนวณด้านคณิตศาสตร์ เช่น การประมาณค่า การปัดเศษทิศนิยม การหาเลขยกกำลัง การคำนวณทางด้านตรีโกณมิติ เป็นต้น ดังนั้นแล้ว ใน JavaScript นั้นจึงมี object ของ math ที่จะใช้สำหรับการคำนซรค่าในลักษณะต่างๆ ทางด้านคณิตศาสตร์ โดยมี method คือ
- Pi เป็น property ค่าคงที่ต้อง pi ซึ่งมีค่าประมาณ 3.14159265 Math.Pi
abs(จำนวน) คือ การหาค่า Absolute
ceil คือ จำนวนเต็มที่อยู่ถัดไป เช่น Math.ceil(0.01) = 1 Math.ceil(1.01) = 2
floor(จำนวน) หาจำนวนเต็มที่อยู่ก่อน เช่น Math.floor(2.99) = 2 , Math.floor( 3.53) = 3
round(จำนวน) จำนวนเต็มที่อยู่ใกล้เคียง เช่น Math.round(4) =4 , Math.round(4.5) = 4, Math(4.51) = 5
trunc(เลขทศนิยม) คือการตัดส่วนของเลขทิศนิยมทิ้งเช่น Math.trunc(123.456) = 123
pow(เลขฐาน, เลขยกกำลัง) คือ การหาค่าเลขยกกำลัง เช่น Math.row(10,2) = 10 ** 2 = 100
sqt(จำนวน) คือ การหาค่าของรากที่ 2 Math.sqt(4) = 2
random() คือการสุ่มเลข Math.random()
max(จำนวน) คือการหาค่าจำนวนที่มากที่สุด เช่น Math.max(108,1009,7,11) = 1009
min(จำนวน) คือการหาค่าจำนวนที่น้อยที่สุด เช่น Math.min(108,1009,7,11) = 7
ใช้ในการจัดการเกี่ยวกับค่าของตัวเลข เช่น การแปลงจากสตริงเป็นตัวเลข หรือการตรวจสอบค่าเกี่ยวกับตัวเลข
ต่อมาเรามาดู method ของ number กัน
- isNaN(ข้อมูล) คือ ใช้ในการตรวจสอบว่าค่าที่ระบุนั้นไม่ใช่ตัวเลขหรือไม่
isFinite(ตัวเลข) คือ ใช้ในการตรวจสอบว่าตัวเลขที่ระบุเป็นจำนวนที่มีขอบเขตหรือไม่ คือ จำนวนที่ไม่ใช่ค่าอนันต์ หรือ inifinty
isInteger(ตัวเลข) คือ ตรวจสอบว่าตัวเลขที่ระบุนั้นเป็นจำนวนเต็มหรือไม่
parseInt(ข้อมูล) คือ แปลงค่าที่ระบุเป็นจำนวนเต็ม
parseFloor(ข้อมูล แปลงค่าที่ระบุเป็นจำนวนทิศนิยม
โค้ด: เลือกทั้งหมด
const prompt = require('prompt-sync')()
let n1 = parseFloat(prompt('จำนวนที่ 1 :'))
let n2 = parseInt(prompt('จำนวนที่ 2 :'))
let r = n1 + n2
console.log(r)
ก่อนอื่นมาทำความรู้ string กันก่อน โดยที่ string ก็คือ การนำอักขระ มาเรียงต่อกันจนเกิดเป็นสายของอักขระ ขึ้น เช่นคำว่า "JavaScript"
ซึ่งเกิดจาก J+a+v+a+S+c+r+i+p+t เป็นต้น ซึ่งในสายอักขระนั้น จะเหมือน array คือ ในสายอักขระมีลำดับเกิดขึ้นหรือใน array ก็คือ index ที่เริ่มต้น 0,1,2,3,....... เป็นต้น ดังนั้นหากเรากำหนดข้อมูลแบบ string ให้กับตัวแปร จะทำให้เกิดเป็น object ชนิด String ดังนั้นในการจัดการข้อมูลแบบ string นั้นเราจะต้องทำผ่าน property หรือ method ของ string
- length คือ ในการหาขนาดหรือจำนวนอักขระของสตริง เช่น let str = 'JavaScript', let len = str.length
concat คือ นำ string ที่มีอยู่มาเชื่อมต่อกัน เช่น let a = 'Hi', let b = a.concat('Jake'), let c = a'concat('How are you ?')
split คือ แยกสตริงออกเป็นสตริงย่อยๆ โดยต้องระบุด้วยว่าให้แยกตรงไหนออก เช่น let str = 'www.google.com' let a = str.split('.') เป็นต้น
trim คือ การตัดช่องว่างและอักขระพิเศษ เช่น \n, \t คือที่อยู่ข้างหน้าและท้ายสตริง
การใช้งานผ่าน object Date เราจะต้องทำการกำหนดตัวแปรก่อนที่จะใช้งาน เพราะเราไม่สามารถที่จะนำ Object Date นั้นมาใช้งานได้โดยตรง
เช่น
โค้ด: เลือกทั้งหมด
let db = new Date()
โค้ด: เลือกทั้งหมด
//let db = new Date(year, month, date)
let db = new Date(2022,01,12)
โค้ด: เลือกทั้งหมด
let test = Date.parse('2020/05/22')
let dt = new Date(test)
method ที่จะใช้ในการอ่านค่าวันเวลา
โค้ด: เลือกทั้งหมด
getFullYear()
getMonth()
getDate()
getDay()
toString() แสดงวันเวลาในแบบสตริง
โค้ด: เลือกทั้งหมด
setFullYear()
setMonth()
setDate()
setHours()
setMinutes()
setSeconds()
var d = new Date()
d.setFullYear(2015)
d.setMonth(10)
d.setDate(29)
สรุป การใช้งาน object method ของ math, number, string และ Date ยังมี method อื่นๆอีกที่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้ โดยในที่นี้ได้เขียนบทความเบื้องต้นของ method แต่ละไว้ ซึ่งใน JavaScript จะต้องมีการนำไปประยุกต์ใช้ใน NodeJs ซึ่งมี method เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญ
https://www.w3schools.com/js/js_math.asp
https://www.w3schools.com/js/js_number_methods.asp
https://www.w3schools.com/js/js_string_methods.asp
https://www.w3schools.com/js/js_date_methods.asp