โค้ด: เลือกทั้งหมด
const data_user1 = "นายแดง";
const data_user2 = "คุณดำ";
const data_user3 = "เมฆ";
โค้ด: เลือกทั้งหมด
const data_user = ["นายแดง", "คุณดำ", "เมฆ"];
ตัวอย่าง ถ้าต้องการดึงข้อมูลผู้ใช้ ชื่อว่า นายแดง
โค้ด: เลือกทั้งหมด
const data_user = ["นายแดง", "คุณดำ", "เมฆ"];
console.log(data_user[0]);
โค้ด: เลือกทั้งหมด
const data_user = ["นายแดง", "คุณดำ", "เมฆ"];
for (var i=0;i < data_user.length;i++) {
console.log("ลำดับที่ " + i + " " + data_user[i]);
}
พื้นฐานสำคัญที่ต่อรู้ในการใช้งานอาร์เรย์ของ Javascript
- การกรองข้อมูลด้วย filter()
ถ้าเราต้องการข้อมูลแค่บางส่วน แต่ไม่ได้ต้อกงการข้อมูลทั้งหมด ก็สามารถใช้ฟังก์ชันที่มีชื่อว่า filter() ทำหนเาที่กรองขอ้มูลในอาร์เรย์ได้
ซึ่งมาดูตัวอย่างในโค้ดนี้ ให้ทำการสร้างตัวแปรอาร์เรย์เก็บข้อมูลพนักงานและเงินเดือน ใน filter() ก็ให้กรองเงินเดือนที่มากกว่าหรือเท่ากับ 15,000 บาทผลลัพธ์ที่ได้ โค้ดด้านบนเป็นการใช้ฟังก์ชัน filter() ใน JavaScript เพื่อกรองข้อมูลจากอาร์เรย์ data_user โดยคัดเลือกเฉพาะข้อมูลที่มีค่า salary มากกว่าหรือเท่ากับ 15000 บาท ซึ่งเป็นเงื่อนไขการกรองที่กำหนดไว้ในฟังก์ชัน filter()โดยการใช้ filter() นั้น จะรับ parameter เป็นฟังก์ชัน callback ซึ่งจะถูกเรียกใช้สำหรับแต่ละอิลิเมนต์ของอาร์เรย์ โดยฟังก์ชัน callback นี้จะต้องส่งคืนค่าเป็น boolean ซึ่งถ้าคืนค่า true จะถือว่าตัวแปรนั้นผ่านการกรองและถูกเก็บไว้ในอาร์เรย์ผลลัพธ์ ส่วนถ้าคืนค่า false จะไม่ถูกเก็บไว้ในอาร์เรย์ผลลัพธ์ ในตัวอย่างโค้ดด้านบนนั้น ฟังก์ชัน callback ส่งเข้าไปใน filter() จะเป็น arrow function ที่มีพารามิเตอร์ชื่อ item ซึ่งจะถูกใช้ในการเปรียบเทียบค่า salary ของแต่ละออบเจกต์ในอาร์เรย์ data_user ถ้า salary มากกว่าหรือเท่ากับ 15000 จะถือว่าเป็นออบเจกต์ที่ผ่านการกรองและถูกเก็บไว้ในอาร์เรย์ผลลัพธ์ resultโค้ด: เลือกทั้งหมด
const data_user = [{user:"นายแดง", salary: 10000}, {user:"คุณดำ", salary: 26000}, {user:"เมฆ", salary: 7000}, {user:"พืช", salary: 5000}, {user:"ลม", salary: 100000} ]; const result = data_user.filter((item)=> { return item.salary >= 15000; }); console.log(result);
- การอ่านข้อมูลด้วย map()
ฟังก์ชัน map() ใน JavaScript เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการเข้าถึงแต่ละอิลิเมนต์ในอาร์เรย์ แล้วนำค่าที่ได้มาประมวลผลต่อไป โดยฟังก์ชัน map() จะสร้างอาร์เรย์ใหม่ที่มีจำนวนอิลิเมนต์เท่ากับอาร์เรย์ต้นฉบับ แต่ค่าแต่ละอิลิเมนต์ของอาร์เรย์ใหม่จะถูกกำหนดค่าจากผลลัพธ์ของการประมวลผลค่าของอิลิเมนต์ที่เป็นต้นฉบับ ผ่านการส่งฟังก์ชัน callback ใน parameter ตัวแรกของฟังก์ชัน map()โค้ด: เลือกทั้งหมด
const result = data_user.map((item)=> { return item.user; }); console.log(result);
- การวนลูปอาร์เรย์โดยใช้ forEach
ฟังก์ชัน forEach() เป็นฟังก์ชันที่ใช้ในการอ่านข้อมูลในอาร์เรย์หรือ objects อื่น ๆ ใน JavaScript โดยจะเป็นการวนลูปผ่านแต่ละอิลิเมนต์ในอาร์เรย์แล้วส่งเข้าไปในฟังก์ชัน callback ที่ถูกส่งไปใน parameter ของ forEach()โค้ด: เลือกทั้งหมด
data_user.forEach((item)=> { console.log(item.user); });
- การค้นหาข้อมูลในอาร์เรย์โดยใช้ find()
ฟังก์ชัน find() ทำหน้าที่ค้นหาข้อมูลในอาร์เรย์ ซึ่งเงื่อนไขที่ระบุต้องตรงกับข้อมูล จึงจะได้ผลการค้นหาที่ตรงตามที่เราต้องการ
ตัวอย่างโค้ด: เลือกทั้งหมด
const result = data_user.find((item)=> { return item.user === "คุณดำ" }); console.log(result);
- การเพิ่มข้อมูลต่อท้ายในอาร์เรย์โดยใช้ push()
ฟังก์ชัน push() ใน JavaScript ใช้สำหรับเพิ่มข้อมูลต่อท้ายในอาร์เรย์ โดยจะรับค่าที่ต้องการเพิ่มเข้าไปเป็นพารามิเตอร์ของฟังก์ชัน และจะเพิ่มค่านั้นเข้าไปในตำแหน่งสุดท้ายของอาร์เรย์โค้ด: เลือกทั้งหมด
const data_user = [{user:"นายแดง", salary: 10000}, {user:"คุณดำ", salary: 26000}, {user:"เมฆ", salary: 7000}, {user:"พืช", salary: 5000}, {user:"ลม", salary: 100000} ]; data_user.push({user:"ไก่", salary: 5800}); data_user.forEach((item)=> { console.log(item.user); });
- การเพิ่มข้อมูลลำดับแรกในอาร์เรย์โดยใช้ unshift()
ฟังก์ชัน unshift() ใน JavaScript ใช้สำหรับเพิ่มข้อมูลไปยังตำแหน่งแรกของอาร์เรย์ โดยจะรับค่าที่ต้องการเพิ่มเข้าไปเป็นพารามิเตอร์ของฟังก์ชัน และจะเพิ่มค่านั้นเข้าไปในตำแหน่งแรกของอาร์เรย์โค้ด: เลือกทั้งหมด
const fruits = ["banana", "orange"]; fruits.unshift("apple"); console.log(fruits);
- การถอดข้อมูลล่าสุดออกจากอาร์เรย์โดยใช้ pop()
pop() เป็นฟังก์ชันใน JavaScript ที่ใช้สำหรับการถอดข้อมูลที่อยู่ในตำแหน่งสุดท้ายของอาร์เรย์ออกมา โดยจะไม่รับค่าอาร์กิวเมนต์ใดๆ และจะส่งค่าของข้อมูลที่ถูกถอดออกมาให้กับผู้ใช้งานโค้ด: เลือกทั้งหมด
const fruits = ["apple", "banana", "orange"]; const removedFruit = fruits.pop(); console.log(removedFruit); console.log(fruits);
- การถอดข้อมูลลำดับแรกออกจากอาร์เรย์โดยใช้ shift()
ฟังก์ชัน shift() ใน JavaScript ใช้สำหรับถอดข้อมูลออกจากตำแหน่งแรกของอาร์เรย์ โดยจะไม่ต้องระบุค่าใดๆ เพิ่มเติมในการใช้งาน และจะลบและคืนค่าของข้อมูลตัวแรกในอาร์เรย์ออกมา
const fruits = ["apple", "banana", "ora ... g(fruits);
อ้างอิง
https://www.mindphp.com/บทเรียนออนไลน์/ ... cript.html
https://www.mindphp.com/developer/20-ja ... -loop.html
https://www.babelcoder.com/blog/articles/introduction-to-functional-programming-in-javascript