BitLocker เป็นระบบการเข้ารหัสข้อมูลที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows ช่วยปกป้องข้อมูลในไดรฟ์จากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต หากมีการสูญหายของอุปกรณ์หรือถูกโจรกรรม BitLocker จะเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดในไดรฟ์ เพื่อให้บุคคลที่ไม่มีสิทธิ์ไม่สามารถเปิดดูข้อมูลได้
เมื่อคุณต้องการติดตั้ง Windows ใหม่ในเครื่องที่เปิดใช้งาน BitLocker จะต้อง **ปลดล็อก BitLocker** ก่อน มิฉะนั้นจะไม่สามารถเข้าถึงไดรฟ์ที่ถูกเข้ารหัสได้
วิธีปลดล็อก BitLocker
1. **ใช้รหัสผ่านหรือ Recovery Key
ในการปลดล็อก BitLocker คุณต้องมีรหัสผ่านหรือ Recovery Key (รหัสกู้คืน 48 หลัก) ที่ระบบได้ให้ไว้ตอนเปิดใช้งาน BitLocker
- Recovery Key สามารถใช้ได้ในกรณีที่คุณลืมรหัสผ่านหรือไม่สามารถปลดล็อก BitLocker ได้ด้วยวิธีปกติ
2. หากคุณไม่มี Recovery Key
- ลองค้นหาในบัญชี Microsoft ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์
คุณสามารถตรวจสอบ Recovery Key ของคุณได้ที่: https://account.microsoft.com/devices/recoverykey - เมื่อทำการ login สำเร็จก็จะไปที่หน้า BitLocker recovery keys
- ให้ดู Key ID หลังข้างหน้าต้องตรงกับ BitLocker Recovery เราก็นำเอา Recovery Key (รหัสกู้คืน 48 หลัก) ไปใส่ในช่อง Enter the recovery key for this drive
ตัวอย่าง
- Screenshot 2024-11-28 182430.png (13.77 KiB) Viewed 181 times
- หลังจากนั้นกด Enter และทำตามการเข้า window ปกติได้เลย
- หากไม่พบ Recovery Key:
ในกรณีที่ไม่สามารถค้นหา Recovery Key ได้ คุณอาจต้อง **ล้างข้อมูลในไดรฟ์ทั้งหมด** ซึ่งหมายความว่าข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสในไดรฟ์จะสูญหายอย่างถาวร
การเปิดใช้งาน BitLocker แม้จะเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลของคุณ แต่การเก็บรักษา Recovery Key ให้ปลอดภัยก็สำคัญไม่แพ้กัน คุณควรบันทึก Recovery Key ในที่ที่ปลอดภัย เช่น บัญชี Microsoft, อุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่น หรือเอกสารที่พิมพ์ไว้ในที่ปลอดภัย
หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับการใช้งาน BitLocker หรือขั้นตอนการปลดล็อก ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลที่สำคัญ
อ้างอิง :
https://support.microsoft.com/th-th/windows/ค้นหาคีย์การกู้คืน-bitlocker-ของคุณ-6b71ad27-0b89-ea08-f143-056f5ab347d6