1. `find`
คำสั่ง `find` ใช้สำหรับค้นหาไฟล์และไดเรกทอรีในระบบไฟล์ตามเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ชื่อไฟล์, ขนาด, วันที่แก้ไขล่าสุด เป็นต้น
ตัวอย่างการใช้งาน:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
# ค้นหาไฟล์ทั้งหมดที่มีชื่อขึ้นต้นด้วย "example" ในไดเรกทอรี /home
find /home -name "example*"
คำสั่ง `grep` ใช้สำหรับค้นหาข้อความภายในไฟล์ต่าง ๆ โดยสามารถกำหนดรูปแบบของข้อความที่ต้องการค้นหาได้
ตัวอย่างการใช้งาน:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
# ค้นหาบรรทัดที่มีคำว่า "error" ในไฟล์ system.log
grep "error" /var/log/system.log
คำสั่ง `locate` ใช้ในการค้นหาไฟล์และไดเรกทอรีโดยอิงจากฐานข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นล่วงหน้า ทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างการใช้งาน:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
# ค้นหาไฟล์ที่มีคำว่า "config" ในชื่อไฟล์
locate config
คำสั่ง `which` ใช้เพื่อค้นหาตำแหน่งของ executable files (ไฟล์ที่สามารถรันได้) ในระบบ
ตัวอย่างการใช้งาน:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
# ค้นหาตำแหน่งของโปรแกรม `python3`
which python3
คำสั่ง `whereis` ใช้สำหรับค้นหาไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมต่าง ๆ เช่น binary files, source code, และ manual pages
ตัวอย่างการใช้งาน:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
# ค้นหาไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับ `bash`
whereis bash
คำสั่ง `findmnt` ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลการเมานต์ (mount) ของไฟล์ระบบ เช่น พาร์ติชันและอุปกรณ์ที่เมานต์ไว้
ตัวอย่างการใช้งาน:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
# แสดงข้อมูลการเมานต์ทั้งหมดในรูปแบบ tree
findmnt -t
คำสั่ง `df` ใช้สำหรับแสดงข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ว่างในดิสก์ (disk space) ของระบบไฟล์
ตัวอย่างการใช้งาน:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
# แสดงพื้นที่ว่างในดิสก์ในรูปแบบ human-readable
df -h
คำสั่ง `du` ใช้สำหรับตรวจสอบขนาดของไฟล์และไดเรกทอรีในระบบ
ตัวอย่างการใช้งาน:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
# แสดงขนาดของไฟล์และไดเรกทอรีในไดเรกทอรีปัจจุบัน
du -h --max-depth=1