หากคุณต้องการปิดการ commit และ push ไฟล์ `.py` และ directory `.pyc` โดยไม่ต้องใช้ไฟล์ `.gitignore`, คุณสามารถใช้คำสั่ง Git เพื่อ exclude ไฟล์และ directory เหล่านั้นได้ชั่วคราวในพื้นที่ทำงานของคุณเองโดยไม่กระทบกับ repository ของคนอื่นๆ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้:
1. **อัปเดต index ของ Git เพื่อไม่ให้ track ไฟล์หรือ directory ที่ต้องการ:**
สมมติว่าคุณต้องการ exclude ไฟล์ `.py` และ directory `.pyc` ทั้งหมด, คุณสามารถใช้คำสั่งดังนี้:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
bash
git update-index --assume-unchanged **/*.py
git update-index --assume-unchanged **/*.pyc
คำสั่ง `--assume-unchanged` จะบอก Git ว่าไม่ต้องสนใจการเปลี่ยนแปลงในไฟล์หรือ directory เหล่านั้นอีกต่อไป
2. **ถ้าคุณต้องการ revert กลับมาให้ Git ติดตามไฟล์เหล่านั้นอีกครั้ง:**
หากในอนาคตคุณต้องการให้ Git ติดตามไฟล์เหล่านั้นอีกครั้ง, คุณสามารถใช้คำสั่ง `--no-assume-unchanged`:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
bash
git update-index --no-assume-unchanged **/*.py
git update-index --no-assume-unchanged **/*.pyc
3. **การตรวจสอบไฟล์ที่ถูก assume-unchanged:**
หากคุณต้องการดูว่ามีไฟล์ใดบ้างที่ถูกตั้งค่าเป็น `assume-unchanged`, คุณสามารถใช้คำสั่ง:
ไฟล์ที่มีอักษรเล็กขึ้นต้นจะเป็นไฟล์ที่ถูกตั้งค่า `assume-unchanged`.
การใช้คำสั่งเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถควบคุมการ track ไฟล์โดยไม่ต้องใช้ `.gitignore` และไม่กระทบกับการตั้งค่าของคนอื่นใน repository เดียวกัน.