การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความต้องการทางธุรกิจจะส่งผลกระทบต่อนักพัฒนาในไทยอย่างไรในปี 2025 อย่างไรบ้าง ?
มาดูกันครับ ภาพรวมจากการมาของ AI เครื่องมือ และ ตัวช่วยในการโค้ด จะทำได้ง่ายขึ้นเร็วขึ้นในฐานนะขอคนพัฒนาจะโค้ดได้เร็วง่าย และบัคน้อยลง แต่ทางธุรกิจปีหน้าจะไม่ได้บูมทุก business sector ในไทย ภาคยานยนต์ การศึกษา มีความต้องการน้อยลง อาจกระทบเกี่ยวเนื่องไปธุรกิจที่เชื่อมโยงกัน ภาครัฐไม่มีงบในการลงทุนมากนักปัญหาขาดงบมาจาก การเอาเงินมาแจกแบบให้เปล่า ทำให้ภาคการลงทุนอื่นๆ โดนผลกระทบไปด้วย
- การใช้ AI และ Machine Learning อย่างแพร่หลาย ในการทำงาน
AI จะถูกนำมาใช้ในการทำงานอัตโนมัติ, ระบบแนะนำอัจฉริยะ และการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์
เครื่องมืออย่าง TensorFlow, PyTorch, LangChain จะได้รับความนิยมมากขึ้น - DevOps และ GitOps ยกระดับการทำงาน
การทำ CI/CD และ Infrastructure as Code (IaC) จะกลายเป็นมาตรฐาน
เครื่องมือที่ได้รับความนิยมได้แก่ GitLab CI, GitHub Actions, Terraform - Full-Stack Developers ที่เชี่ยวชาญหลายเทคโนโลยี
ความต้องการนักพัฒนา Full-Stack ที่ทำได้ทั้ง Frontend และ Backend จะเพิ่มขึ้น
Frameworks ที่นิยม: go, React, Django, FastAPI php มีโปรเจ็คเยอะ หาจะหา dev ยากขึ้น - การเติบโตของ Blockchain และ Web3
แอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain จะเพิ่มขึ้นใน FinTech และ Supply Chain แต่สายอื่นๆ จะน้อย ไม่ได้บูมอย่างที่หลายคนคาดการไว้เมื่อปีก่อนหน้า
วงการเว็บจะเน้นไปที่ web 2.0 ที่เพิ่มประสิทธิภาพ มากกว่า เช่น ทำให้เร็วโหลดเร็วขึ้น ตอบสนองเร็วขึ้น ง่ายขึ้น ไม่เน้นสวยงามเท่าไหร่ แต่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน
ทักษะที่จำเป็น: 2.0 Web programming ทังหลาย python, node, php, go ,.net, c# ผัง Blockchain และ Web3 Solidity, Rust, Web3.js - Cybersecurity เป็นทักษะจำเป็น
ความปลอดภัยของโค้ดและระบบจะเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ทั้งระบบองค์กรใหม่ และ ระบบ Cloud รวมถึง In-house software เป็นสิ่งที่จำเป็น
เครื่องมือที่นิยมใช้: OWASP, Burp Suite, Nmap - Low-Code/No-Code Platforms จะได้รับความนิยม
แพลตฟอร์มเช่น AppSheet จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กพัฒนาโปรแกรมได้เร็วขึ้น แต่ถ้าเป็นระบบขนาดใหญ่ขึ้น ระบบ ERP ธุรกิจจะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น - การทำงานแบบ Hybrid และ Remote (WFH)
การทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid) จะยังคงเป็นมาตรฐาน
เครื่องมือที่นิยมใช้: Slack, Zoom, Jira, Notion, ทาง mindphp ใช้ phpBB เป็น E-office ในการทำงานและติดตาม อัพเดดงาน คู่กับ social vdo call - การเติบโตของ IoT และ Edge Computing
IoT จะขยายตัวในอุตสาหกรรมการผลิต, การเกษตร และสมาร์ทซิตี้ ส่วนนี้จะเติมโตมากหรือ น้อยขึ้นกับภาวะเศรฐกิจของประเทศ และ การส่งเสริมลงทุนของภาครัฐด้วย
ภาคเอกชนที่พอมีกำลัง จะนำเอา iot รวมถึง หุ่นยนต่างๆ มาใช้งานเยอะขึ้น การนำเข้าเทคโนโลยีสืบเนื่องจะมากขึ้น การพัฒนาในประเทศเพื่อธุรกิจจะสู้การนำเข้าเทคโนโลยีหุ่นยนไม่ได้ - Quantum Computing ก้าวเข้ามาในวงการ Dev
นักพัฒนาบางกลุ่มจะเริ่มทดลองใช้ Qiskit และ Cirq ทั้งทีม Google, MS เอง น่าจะได้เห็นคิวบิทเยอะขึ้นและเริ่มนำมาใช้งานเป็นโปรเจ็คต้นแบบมากขึ้น - ความต้องการ Dev ในอุตสาหกรรมเฉพาะทางเพิ่มขึ้น
เช่น HealthTech, AgriTech, EduTech, FinTech แต่จะเป็นโอกาสของคนมีประสบการณ์ที่ใช้ AI เป็นมากกว่า นักศึกษาจบใหม่ที่พึงพา AI
คาดการเงินเดือนนักพัฒนาในไทยปี 2025
- ฺBeginer Developer: 15,000 - 17,999 บาท/เดือน - จบใหม่หรือย้ายสาย
- Junior Developer: 18,000 - 24,999 บาท/เดือน - เริ่มทำงานได้มีโปรเจ็คใช้งานได้
- Mid-Level Developer: 25,000 - 44,999 บาท/เดือน - เริ่มมีประสบกาณ
- Senior Developer: 45,000 - 99,000 บาท/เดือน
- DevOps Engineer / AI Engineer: 30,000 - 120,000 บาท/เดือน
ทักษะเฉพาะทาง เช่น Blockchain, AI, และ Cybersecurity จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น
ส่วนสาย support ก็จะทรงๆ และ ความต้องการจะน้อยลงเนื่องจาก ai และ ธุรกิจนำแชทบอท เข้ามาใช้มากขึ้น
การว่างงานในไทยปี 2025
- ความต้องการแรงงานด้าน IT จะลดลง ทำให้อัตราการว่างงานในกลุ่มนักพัฒนาสูงขึ้น (โดยเฉพาะคนจบใหม่ หรือย้ายสาย)
เพราะ ภาครัฐให้ความสำคัญน้อย ภาคเอกชนลดการลงทุนจากภาวะเศษฐกิจ และ การมาของ AI ที่ทำให้งานในมือของทีมเดิมพัฒนางานได้เร็วขึ้น - นักพัฒนาที่ไม่อัปเดตทักษะใหม่ ๆ อาจเผชิญกับความเสี่ยงในการถูกทดแทนได้