คำสั่ง ของ User สูงสุด หรือ Root ในลีนุ๊ค SUDO และ CHMOD บน Linux
SUDO (สูดู) หรือ Super User Do (ซูปเปอร์ ยูเซอ ดู) คือคำสั่งที่ใช้สำหรับเปิดใช้สิทธิ์การ ROOT (รูท) และเราจะเห็นใช้งานกันมากในเครื่อง Linux เพื่อที่เราจะสามารถจัดการกับไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆ หรือติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมได้ เมื่อเราป้อนคำสั่ง sudo นำหน้าคำสั่งต่างๆ จะทำให้เรามีสิทธิ์เท่ากับยูสเซอร์ในระดับ root ถึงแม้ว่าจะล็อคอินผ่านยูสเซอร์ธรรมดาก็ตาม พอมาถึงจุดนี้ ทุกคนอาจจะเข้าใจว่า ถ้ายูสเซอร์ทุกคนสามารถพิมพ์คำสั่ง sudo ได้ ก็หมายความว่า ความปลอดภัยของระบบก็ไม่มี เพราะทุกคนก็สามารถใช้สิทธิ์ root ยูสเซอร์โดยพิมพ์ sudo นำหน้าคำสั่งได้ แต่อันที่จริง ไม่ใช่ยูสเซอร์ทุกคนจะได้รับสิทธิ์นี้ เราจะต้องมีการระบุ ว่ายูสเซอร์คนใดสามารถรับสิทธิ์เป็น superuser หรือ root ได้ เนื่องจากตามที่โปรแกรมกำหนดมาให้มีเพียงยูสเซอร์ pi เท่านั้นที่เป็นยูสเซอร์ซึ่งได้รับสิทธิ์การใช้คำสั่ง sudo มาโดยอัตโนมัติ จึงสามารถใช้สิทธิ์การเป็น root ยูสเซอร์ได้ แต่ถ้าเราสร้างยูสเซอร์คนใหม่ จะต้องมีการกำหนดสิทธิ์การใช้คำสั่ง sudo เสียก่อน หากผู้ใช้คนใดไม่ได้ถูกระบุให้สามารถใช้ sudo ผู้ใช้คนนั้นก็จะไม่สามารถใช้คำสั่ง sudo เพื่อใช้สิทธิ์การเป็น root ยูสเซอร์ได้ ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆคือการใช้ sudo นั้นเวลาที่ท่านใช้จริง หลังจากพิมพ์ sudo เพื่อทำอะไรสักอย่าง มันจะให้เราใส่รหัสผ่านไปก่อน (โปรดทราบว่า การใช้คำสั่ง su นั้น ทำให้เรามีเวลาคิดทบทวนก่อนใช้คำสั่งนั้นๆ เพราะคำสั่งใน OS ตระกูล Linux ในฐานะ root นั้น ทำได้ทุกอย่าง และทันที ไม่สามารถ undo ได้ ผมเคย sudo มั่ว จนได้ลง OS ใหม่มาแล้ว ดังนั้นการใช้งาน sudo ควรใช้งานด้วยความระมัดระวัง)
คำสั่ง sudo เบื้องต้น
|
คือ อัพเดทฐานข้อมูลของแพ็กเก็จทั้งหมด รันคำสั่งนี้เมื่อเปลี่ยนแปลงไฟล์ /etc/apt/sources.list |
|
คือ ค้นหาแพ็กเก็จที่ต้องการติดตั้ง เช่น sudo apt-cache search firefox |
|
คือ การดาวน์โหลด และติดตั้งแพ็กเก็จ |
|
คือ ดาวน์โหลดแพ็กเก็จเก็บไว้ใน /var/cache/apt/archives แต่ไม่ติดตั้ง |
|
คือ แสดงข้อมูลรายละเอียดของแพ็กเก็จ |
|
คือ เชคดูว่าแพ็กเก็จที่ติดตั้งไปทั้งหมดมีเพ็กเก็จใดมีการอัพเดทบ้าง ต่อจากนั้นก็จะถามว่าต้องการดาวน์โหลดและติดตั้ง |
|
คือ ลบแพ็กเก็จที่ดาวน์โหลดมาไม่สมบูรณ์ หรือแพ็กเก็จที่ไม่ได้ใช้ติดตั้งแล้ว |
|
คือ ลบทุกแพ็กเก็จที่ดาวน์โหลดมาเก็บอยู่ที่ /var/cache/apt/archives |
|
คือ กรณีที่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นในขณะที่กำลังติดตั้งแพ็กเก็จ เช่น สั่งยกเลิก หรือ ไฟฟ้าดับ แล้วใช้คำสั่ง apt-get install แล้วมีข้อความ error สามารถใช้คำสั่ง apt-get -f install ช่วยแก้ปัญหาได้ sudo apt-config -v คือ แสดงเวอร์ชัน และ ราย ละเอียดของ APT utilities |
|
คือ ลบแพ็กเก็จที่ติดตั้งไปแล้ว |
|
คือ เหมือนกับ remove แต่จะลบ ไฟล์คอนฟิคด้วย |
|
คือ เพิ่ม repository (ต้องลง python-software-properties ก่อน) |
คำสั่ง CHMOD
CHMOD คือ ค่า Permission หรืออธิบายเป็นไทยคือ ค่าของความมีสิทธิ์ในการเข้าถึง และใช้งาน File หรือ Directory นั้น ๆ ซึ่ง CHMOD จะมีค่าต่าง ๆ แบ่งเป็นตัวเลข 3 หลัก เช่น 755, 777 เป็นต้น ในความหมายของเลขแต่ละหลักทั้ง 3 หลัก จะมีความหมายดังนี้
ตารางแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ |
Owner(หลักที่1) | Group(หลักที่ 2) | Others & Public (หลักที่3) |
Execute | Write | Read | Execute | Write | Read | Execute | Write | Read |
4 | 2 | 1 | 4 | 2 | 1 | 4 | 2 | 1 |
Example : 755 = Owner (7), Group (5), Other (5) |
*Owner คือ เจ้าของไฟล์, Group คือ กลุ่มผู้ใช้งานรวมกับเจ้าของไฟล์, Other & Public คือ กลุ่มผู้ใช้งานจากภายนอก
Execute คือการ อนุญาตให้สั่งไฟล์หรือ Directory
Write คือการ อนุญาตให้เขียนไฟล์หรือ Directory
Read คือการ อนุญาตให้อ่านไฟล์หรือ Directory
ยกตัวอย่างเช่น 777 ก็คือ เปิดสิทธ์ทั้งหมดกลุ่มผู้ใช้ โดยที่
Owner(หลักที่1) จะนำเอา 4+2+1=7
Group(หลักที่ 2) 4+2+1=7
Others & Public (หลักที่3) 4+2+1=7
ผลลัพท์คือ 777