เทคโนโลยี 4K หรือ ultra High Definition คือมาตรฐานใหม่ของความละเอียดของ "จอภาพ" และ "คอนเทนต์"
สำหรับความละเอียดของหน้าจอทีวีแบบ 4K มีความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งพอรวมผลออกมาก็จะได้ประมาณ 8.29 ล้านพิกเซล แต่ในขณะเดียวกัน ทางทีวี Full HD นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งผลรวมออกมาก็จะได้ประมาณ 2.07 ล้านพิกเซล จะเห็นได้ว่าความละเอียดหน้าจอทีวีของ 4K นั้น มีมากกว่าทีวีแบบ Full HD ถึง 4 เท่า
ประโยชน์ของภาพ 4K ในเชิงคุณภาพของภาพ
ยิ่งเม็ดพิกเซลเยอะ ก็จะส่งผลให้ขนาดเม็ดพิกเซลมีความเล็กและเรียงตัวกันถี่มากขึ้น "รอยหยักแบบขั้ยชนบันได" (Jaggies) ก็จะน้อยลง รวมถึงพื้นที่ "รอยต่อระหว่างพิกเซล" (Screen Door Effect) ก็จะแคบลงทำให้ภาพนั้นมีคามเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ผู้ใช้ได้ับชมภาพที่มีรายละเอียดมากขึ้น
มาตรฐานวงการทีวีไฮเดฟฟิเนชั่นแบบไวสกรีน
HD = 1366 x 768
Full HD = 1920 x 1080
Ultra HD (4K) = 3840 x 2160
ทิศทางของเทคโนโลยี 4K ในอนาคต
ตั้งแต่เทคโนโลยี 4K เปิดตัวเมื่อปี 2013 ตอนนั้นยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากราคาของทีวี 4K นอกจากจะแพงแล้วนั้น คอนเทนต์ที่จะเปิดให้ใช้ยังไม่ค่อยมีเท่าใดนัก แต่เมื่อพอมาถึง 2015 ทีวีความละเอียด 4K นั้นมีราคาถูกลงอย่างมาก และในด้านคอนเทนต์ต่างๆ ก็เริ่มมีการปล่อยแผ่นแบบบลูเรย์ความละเอียด 4K ในช่วงกลางปี 2016 เป็นต้นมา และในอนาคตเมื่อทุกอย่างลงตัว ความละเอียด 4K ก็จะกลายมาเป็นมาตรฐานแทนที่ความละเอียดแบบ Full HD แน่นอน และเทคโนโลยีนั้นจะไม่ได้อยู่แค่บนทีวีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงผลบนหน้าจอของโทรศัพท์มือถืออีกด้วย
อ้างอิง : https://www.lcdtvthailand.com/topic_detail.php?id=164
อ้างอิงภาพ : http://homeshopping01.blogspot.com/2015/05/led-tv-full-hd-uhd-4k.html