ยารูปแบบใหม่ที่ผลิตจากเครื่องพิมพ์สามมิติ
ในปัจจุบันโลกเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 และการดูแลสุขภาพที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล ด้วยเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติรูปแบบใหม่ ที่เปิดโอกาสให้เภสัชกรสามารถสร้างเม็ดยาที่มีรูปแบบเฉพาะตามความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความยุ่งยากในการที่ผู้ป่วยจะต้องคอยจดจำว่ายาแบบนี้ต้องกินครั้งละกี่เม็ด ทำให้การกินยานั้นง่ายขึ้นมากๆ เลยเพราะสามารถออกแบบลักษณะยาได้ช่วยให้ผู้ที่ไม่ชอบกินยาแบบแคปซูลนั้นเปลี่ยนเป็นยาเม็ดธรรมดาได้
เครื่องพิมพ์ 3 มิติที่ทำหน้าที่ผสมสูตรยาเม็ดนั้นมีขนาดที่เล็กเท่าเครื่องปิ้งขนมปังได้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทสตาร์ทอัพที่มีชื่อว่า Vitae Industries (ไวเต้ อินดัสทรี่) ตั้งอยู่ในรัฐ Rhode Island (โรด ไอแลนด์) ประเทศสหรัฐอเมริกา เคลมว่าการสร้างยาเม็ดที่มีสูตรเฉพาะด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้น ใช้เวลาเพียง 3 ใน 4 ส่วนเมื่อเทียบการกับที่ใช้แรงงานคนเทผงยาใส่แคปซูลของยาเม็ด และเครื่องพิมพ์นี้สามารถสร้างเม็ดยาที่มีส่วนผสมของตัวยาหลายประเภทในเม็ดเดียว ช่วยลดความยุ่งยากในการกินยาเม็ดครั้งละมากๆ ได้เป็นอย่างดีเลย
คุณ Jeanine Sinanan-Singh ดำรงตำแหน่ง CEO (ซีอีโอ) ของบริษัท Vitae Industries ให้สัมภาษณ์ว่า "เครื่องพิมพ์ยาเม็ดสามมิตินี้ เป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้เภสัชกรผลิตยาเม็ดตามความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจงของผู้ป่วยแต่ละคน และยาเม็ดที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ อาจจะไม่เหมาะกับการใช้ในผู้ป่วยแต่ละรายอย่างแท้จริง การที่เภสัชกรสามารถออกแบบยาเม็ดตามความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างง่ายดาย ก็ยังช่วยยกระดับคุณภาพการรักษา ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร" โดยมีรายงานว่าใช้เวลาในการสร้างยาเม็ด 10 นาที และเภสัชกรก็สร้างยาเม็ดตามสูตรที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ด้วยการป้อนสูตรยาเข้าไปในเครื่อง พร้อมการป้อนตัวยาที่ต้องการใช้เข้าไปในเครื่อง หลังจากนั้นก็รอเวลาให้เครื่องพิมพ์ยาเม็ดออกมา และเครื่องพิมพ์จะมีการทำความสะอาดตัวเองในระหว่างการพิมพ์ ทำให้ไม่เกิดปัญหาที่ตัวยาอื่นจะเจือปนเข้ามาในยาเม็ดที่ถูกพิมพ์ออกมา
เครื่องพิมพ์ยาเม็ดที่กำหนดราคาขายเอาไว้ที่ $5,000 (ประมาณ 163,700 บาท) ยังไม่มีการเปิดขาย และทางบริษัทก็ยังไม่ได้มีการเผยแพร่ภาพของเครื่องพิมพ์ยาเม็ดออกสู่สายตาสาธารณะชนแต่อย่างใด และนวัตกรรมนี้เรียกร้องความสนใจจากนักลงทุนได้ดี บริษัทสามารถระดมทุนได้ถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และคุณ Jeanine Sinanan-Singh บอกว่าโปรเจคนำร่องจะเริ่มต้นในปี 2018 กับหน่วยงานผลิตยาที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในอนาคตที่น่าสนใจมากๆ
VDO แนะนำ 3D-Printer
ข้อมูลจาก : www.digitaltrends.com